เฮ เฮ เฮ เฮ นี้ท่านประธานสงฆ์คือพระครูวิบูลย์ นิติธรรมเดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธีแล้ว กราบอาราธนาพระคุณเจ้าทุกรูปเรียนเชิญ สาธุชนทุกท่านนั่งคุกเข่าประนมมือตั้งใจ กราบพระประธานโดยพร้อมเพรียงกันนะครับ กราบ กราบ กราบครับ อะระหังสัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา >> พุทธังภะคะวันตังอะภิวาเทมิ >> พุทธังภะคะวันตังอะภิวาเทมิ >> สวากขาโตภะคะวะตาธัมโม >> สวากขาโตภะคะวะตา ธัมโม >> ธัมมังนะมัสสามิ >> ธัมมังนะมัสสะ สุปะฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโฆ สุปะฏิปันโน ภะคะวะโตสาวะกะสังโฆ >> สังฆังนะมามิ >> สังฆังนะมามิ >> อันมะยังพุทธัสสะภะคะวะโต อุปะภาคะนะมะการะัง กะโรมะเส นะโมนะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะภะคะวะโตโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ กราบ >> กราบ กราบ เรียนเชิญสาธุชนทุกท่านตั้งใจกราบท่าน ประธานสงฆ์และคณะสงฆ์โดยพร้อมเพรียงกันนะ ครับกราบกราบ กราบ กราบ เรียนเชิญสาธุชนทุกท่านตั้งใจกล่าวคำ อาราธนาศีลโดยพร้อมเพรียงกันนะครับมะยัง ภันเตวิสุงวิสุงรักคะณัถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะสีลานิยาจามะ ทุติยัมปิ มะยังภันเตวิสุงวิสุงรักขะณัตถายะ ติสะระเณนะสะหะปัญจะสีลานิยาจามะ ตะติยัมปิ มะยังภันเตวิสุงวิสุงราคะถายะ ติิสะระเณนะสะหะปัญจะสีลานิยาจามะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโตอะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโตอะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโตอะระหะโต สัมมาสัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโตสัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโตสัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ พุทธังพุทธังสะระณังคัจฉามิ >> พุทธังสะระณังคัจฉามิ >> ธัมมังสะระณังคัจฉามิ >> ธัมมังสะระณังคัจฉามิ >> สังฆังสะระณังคัจฉามิ
>> สังฆังสะระณังคัจฉามิ >> ทุติยัมปิพุทธังสะระณังคัจฉามิ ทุติยัมปิพุทธังสะระณังคัจคัจฉามิ >> ทุติยัมปิธัมมังสะระณังคัจฉามิ >> ทุติยัมปิธัมมังสะระณังคัจฉามิ >> ทุติยัมปิสังฆังสะระณังคัจฉามิ >> ทุติยัมปิสังฆังสะระณังคัจฉามิ >> ตะติยัมปิพุทธังสะระณังคัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธังสะระณังคัจฉามิ >> ตะติยัมปิธัมมังสะระณังคัจฉามิ >> ตะติยัมปิ ธัมมังสะระณังคัจฉามิ >> ตะติยัมปิสังฆังสะระณังคัจฉามิ >> ตะติยัมปิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ >> ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิมิปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ อทินาทานา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ อะทินาทานา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ กาเมสุมิจฉา จะราเวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ กาเมสุมิจฉา จาราเวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ >> มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ >> สุราเมระยะ มัชชะปะมาทัตฐานา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ สุราเมระยะ มัชชะปะมาทัตฐานา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมาทิยามิ อิมานิปัญปัญจะสิกขา ปะทานิ สีเลนะสุคะติงยันติ สีเลนะโภคะสัมปะทา สีเลนะนิพพุติงยันติ ตัสสมาสีลังวิโส ทะย สาธุ กราบ >> กราบ กราบครับ วิปัตติปะฏิภาหายะ สัพพะสัมปะติ สิทธิ สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตังพูธะมังคะลัง วิปัตติปะฏิภาหายะ สัพพะสัมปัตติติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายา ปะริตตังพรูทะมังคะลัง วิปัตติปะฏิภาหายะ สัพพะสัมปะติสิทธิยา สัพพะโลคะวินาสายะ ปะริตตังพูทะมังคะลัง ปะริตะวาเมตะ สะเมตาทันตา อวิคิตตะจิตตา ปะริตังตุ สักเคกกาเมจะรูเปคิริสิคะระตะเต จันตะลิเวิมาเน ทีระเถาเมตะรุวะนะคะหะเน เขหะวะทุมหิเเต อุมมาจายันตุ เทวาชะละละวิสะเม ยักขะคันธะพะนาคา ติทันตา สันติติเกยังมุนิวะระวะจะนัง สาทะโว
เมสุนันตุ ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมพะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมพะทันตา ธัมมัสสะวณกาโล โะยัมพะทันตา นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะุ พุทธังสะระณังคัจฉามิ ธัมมังสะระณังคัจฉามิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธังสะระณังคัจฉามิ ตุติยัมปิ ธัมมังสะระณังคัญจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธังสะระณังคัญจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมังสะระณังคัญจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆังสะระณังคัจฉามิ >> สัมพุทเธ อันเวสัญ จะทะวาทะสัญจะสะหัสสะเค ปัญจะสะตะสะหัสสานิ นะมามิสิระสาอะหังเตสังธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนันทะวา สัพเพอุปัฐะเว อะเนกา อันตะรายะ อภิณสันตุ อะเสสะโต สัมพุทเธะ ปัญญาสัญจะจะตุวิสะติ สะหัสสะเกคะสะสะตะสะหัสสานิ นะมามิสิระสาอะหังเตสังธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการัง หันตะวาสัพเพอุปัฏฐะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต สัมพุทเตนะ วุตตะระสะเต อัฏถะจัตี สะสะหัสสะเควี สะติสะตะสะหัสสานิ นะมามิสิระระสาอะหังเตสังธัมมัญจะ สังฆัญจะ อัถะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะหันตะวา สัพเพอุปัฏฐะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเส สัตโต อนุตตะรัง อะภิสัมโพธิ สัมพุจฉิตะวา ตะถาคะโต ปะทะมังยังอะเทเสสิ ธัมมะจักกัง อะนุตพุตตะรัง สัมมะเทวะ ปะวัตเตนโต โลเกอัปะฏิวัตติยัง ยะถักขาตา อุโพอันตา ปะฏิปะติจะมัชิมา จะตูสะวาริยะสัจเจสุ วิสุทธัง ญาณทัสสะนัง เทสิตัง ธัมมะราเชนะ สัมมาสัมโพทิกตะนัง นาเมนะ
วิสุตังสุตัง ธัมมะจักกะปะวัตตะนัง ไวยยยาคกะระณปาเทนะ สังขีตันตั พะนะเส เอวะเมสุ เอกัง สะมะยังภะคะวา สารานะ สิยังวิหะระติอิสิปะตะเนมิคะทาเยตัสระโข ภะคะวาปัญจะวาคิเย ภิกขู อามันเต สิะเวเมภิกขะเว อันตาปัปะชิเตนะนะ เสวิตัพปาโย กาเมสุกัมมะ สุขัลลิกานุโยโคหิโน ธัมโมโพธุชชะนิโก อะนะริโย อะนัตตะสันหิโต โยายังอัตตะกิระมะถานุโยโค ทุกโขอะนะริโย อะนัตถะสันหิโต เอเตเต ภิกขะเว อุโพอันเตอะนุปะคัมมะมัชิมา ปะฏิปะทาตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา จักขุกะระณีญานะกะระณีอุปะอัสะมายะ อะภิญญายะ สัมพุทธายะ นิพพานายะ สังวาทิกะตะมา จะสาภิกขะเว มัชิมาปะฏิปะทาตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา จักขุกะระณีญานะกะระณีอุปะสะมายะ อะภิญญายะ สัมโพธายะนิ นิพพานายะ สังวัตะติ อะยะเมวะอะริโยอัฏถังคิโก มัคโคสัยยะถีทัง สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัโพ สัมมาวาชา สัมมากัมมันโน สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสะติติสัมมาสะมาทิ อะยังโขสาภิกขะเวมัจฉิมาปะฏิปะทา ตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา จักขุกะระณีญาณะกะระณีอุปะสะมายะ อภิญญายะ สัมพุทธายะ นิพพานายะ สังวัตตะติ อิทังโขปะนะภิกขะเวทุกขังอะริยะสัจจัง ชาติทุกขาชะราปิทุกขามะระณัปิทุกขังโสกะ ปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสัสสาปิ ทุกขาอัปิเยหิ สัมปะโยโคทุกโขปิเยหิ วิปะโยโคทุกโขยัมปิอิจฉังนะะละปะฏิทัมปิ ทุกขังสังเตนะ ปัญจุปาทานัก ขันทาทุกขาอิทังโหปะนะภิกขะเว ทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจัง ญายังตัณหาโพโนภะวิกานันทิราคะสะหะกะตา ตัตระตัสราภินันติ ินสัยยะถีทัง กามะตัณหา ภะวะตัณหา วิภะวะตัญ อิทังโขปะนะภิกขะเวทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจัง โยตัสสาเยวะตัณหายะ อะเสสะวิราคะนิโรโธจักโกปะฏินิสักโค มุตติอะนาล อิทังโขปะนะภิกขะเวทุกขะนิโรธะคามิณี ปะฏิปะทาอะริยะสัจชัง อะยะเมวะ อะริโยอัฏถังิโก มักโฆไสยยะถีทัง สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัโพ สัมมาวาชา สัมมากัมมันโตโสัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม สัมมาสะติ สัมมาสะมาทิ อิทังทุกขังอะริยะสัจจันติ เมภิกขะเว ปุพเพอะนะนุสสุเตสุธัมเมสุ จักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปะ ปัญญาอุทะปาทิวิชชาอุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิตัง
โขปะณิทังทุกขังอะริยะสัจจัง ปะริญญายยันติ เมภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุจักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะอุทะปาทิวิชชาอุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิตัง โขปะณิทังทุกขังอะริยะสัจจัง ปะริญญาทันติเมภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุจักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชะ าอุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิอิทังทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจันติ เมภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุจักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชา อุทะปาทิอาโลโก อุทะสะปาทิตังโขปะฏิทังทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจัง ปะหาตัพพันติเม ภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุธัมเมสุ จักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชา อุทะปาทิอาโลโก อุทะปาอาทิตังโขปะณิฆังทุกขะสะมุทะโย อะริยะสัจจัง ปะหีนันติเม ภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุจักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชา อุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิหิทัง ังทุกขะนิโรโธอะริยะสัจชันติ เมภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุจักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชา อุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิตัง โขปะณิทังทุกขะนิโรโหะ อะริยะสัจชัง สัจฉิกาตัพพันติเม ภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุจักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชา อุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิตัง โหปะณิทังทุกขะนิโรโต อะอะริยะสัจจัง สัจฉิกะตันติ เมภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุธัมเมสุ จักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชา อุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิอิทังทุกขะนิโรธะคามิณี ปะฏิปะทาอะอะริยะสัจจันติ เมภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุธัมเมสุ จักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชาอุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิตัง โขปะณิทังทุกขะนิโรธะคามิณี ปะฏิปะทาอะริ สัจจังภาเวตัพพันติเม ภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุจักขุงอุทะปาทิญาณัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชา อุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิตัง โขปะณิทังทุกขะนิโรธะคามิณี ปะฏิปะทาอะริยะสัจจัง อาวิทันติ เมภิกขะเวปุพเพอะนะนุสสุเตสุ ธัมเมสุจักขุงอุทะปาทิยานัง อุทะปาทิปัญญา อุทะปาทิวิชชาอุทะปาทิอาโลโก อุทะปาทิยาวะีวัญจะเม ภิกขะเวเวอิเมสุจะตุสสุอะริยะสัจเจสุ เอวันติปะริวัตตัง ภะวาทะสาการัง ยะถาพุทธังญานะทัสะนังนะสุวิสุทธัง อะโหสิเนวะตาวาหัง ภิกขะเวสะเทวะเก โลเกสะมาระเกสะพรัมมะเกสาสะ สะมะนะพรัมมะนิยา ปะชายะสะเทวะมะนุสสายะ อะนุตตะรัง สัมมาสัมโพทิง อะภิสัมพุทโธ ปัจจัญญา สิงะโตจะโขเมภิกขะเวอิเมสุจะตูสุอะริยะ สัจเจสุเอวัตติปะริวัตตัง
ทะวาทะสาการังังยะถาพุทธังญานะทัสสะนัง สุวิสุทธัง อะโหสิอะถาหังภิกขะเวสะเทวะเก โลเกสะมาระเกสะ พรัมมะเกสัสสะมะนะ พรัมมะนิยา ปะชายะสะเทวะมะนุสสายะ อะนุตตะรัง สัมมาสัมโพทิง อะภิสัมพุทพุทโธปัจจัญญา สิงญานัญ จะปะนะเมทัสสะนัง อุทะปาทิอะกุปปาเม วิมุตติอะยะมติมาชาติถิทานิ ปุนัพพะโวติ อิทะมะโวจะภะคะวาอัฏตะมะนา ปัญจะวักคิยา ภิกขูภะคะวะโต ัสสิตัง อะภินันทุง อิมัสสะมิจะปะนะวา กะระณัสสะมิง ปัญญะมาเนอายสะมะโต โกณัสสะวิระชัง วีตะมะลัง ธัมมะจักขุงอุทะปาทิยังจิ สะมุทะยะธัมมังสัพพันธัง นิโรธะธัมมันติ ปะวัตติเต จะภะคะวะตา ธัมมะเค ภุมมาเทวา สัทธะมะนุสสา เวสุงเอตัภะคะวะตา ารานะสิยังอิสิปะตะเนมิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติัง อัปะฏิวัตติยัง สะมะเนนะวา พรัมมะเนเตนะวาเทเวนะวามาเรนะวา พรัมมุนาวาเคนะ จิวาโลกัสสะมติ อุมมานัง เทวานัง สัทธังสุทะวาจาตุมหาราชิกา เทวาสัคะมะนุสสา เวสุงทุกจาตุมหาราชิก สุตะวา สาเทวาสัตธะมะนุสสา เวสุงะติง สานังเทวานัง สัทธังสุตะวาย มาเทวาสัทธะมะนุสสา เวสุสุงยามัง เทวานัง สัทธังสุทะวาตุ สิตาเทวาสัทธะมะนุสสา เวสุงตุสิตานัง เทวานัง สัทธังสุทะวานิมานะระตี เทวาสัทธะมะนุสสา เวสุงนิมมานะระตีนัง เทวานัง สัทธังสุทะวาปะระณิมมิตะวะ สะวัตติเทวาสัทธะมะนุสสา เวสุงปะระณีมิทะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัทธังสุตะวาพรัมมะกายิกา เทวาสัตะมะนุสสา เวสุงเอัมมะภะคะวะตา ารานะสิยังอิสิปะตะเนมิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจากปะวัตติ อัปะฏิวัตติยัง สะมะเนนะวาพรัมมะเนนะวา เทเวนะวามาเลนะวา พรัมมุนาวาเกนะ จิวาโลกัสะสะมิอติ อิติหะเตนะ คะเนนะเตนะมุหตเตนะ ยาวะพรัมมะโลกาสัตโธอัภุคัิ อะยัญจะทะสะสะหัสสีโลกะ ทาตุสังคัมปิสัมปะกัมปิ สัมปะเวทิ อัปปะมาโน จะโอราโร โอโภัสโส โลเกปาตุระโหสิอะติกัมเมะ เทวานัง เทวานุภาวัง ปะทะโขภะคะวาอุทานังอุทาเนสิ อัญญาสิวะโพโคทัญโญ อัญญาสิวะโพโคทัญโญติ อิติหิทังอายะสะมะโต โคทัญญัสะ อัญญะโคทัญโยตะ เวะนา อาโหสีติปัตตา จะทุกขาพะยัปัตตาจะนพะยาโสกะปัตตา
จะนิโสกา โหตุสัพเพปิอิปานิโน เอทาวะตา จะอัมเหิสัมปะทังปุญญะสัมปะทัง สัพเพานุโมทันตุ สัพพะสัมปัตติ สิทธิยาทานังคะทันตุสัตธายะสีลังรักขันตุ สัพพะทา ภาวะนาวิระตาโหนตุคัจฉันตุเทวะตาคะ สัพเพพุทธา ภะลัปทา ปัเชกานัญจะยัง พะลังอะระหันตานัญ จะเตเชนะรักขัง คันทามิ สัพพะโส >> ภะคะวะโตสัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภา ภาเวนะสัทธาสุตถีภะวันตุเตภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัทธาโสตถีภะวันตุเตภะวะตุสัพพะมังคะลัง รักขันตุสัพพะเทวะตา สัพพะสังฆา าุ อาเวนะ สัทธาโสธี ภะวันตุเต >> สาธุ เรากันใจให้ใสนั่งสมาธิตามเสียงหลวงพ่อ กันสักครู่นึงนะ ตั้งใจนั่งหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะจ๊ะ ห หลับตาเบาๆ พอสบายๆ หลับตาเบาๆ พอสบายวาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนร่างกายของเรา นะจ๊ะ ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกสบาย ปรับท่านั่งให้ถูกส่วน ขยับเนื้อขยับตัวของเราให้ดีนะจ๊ะนะ ให้เลือดลงในตัวเดินได้สะดวก จะได้ไม่ปวดไม่เมื่อย แล้วก็ปรับให้สบายทั้งร่างกายและจิตใจ ต้องสบาย ต้องผ่อนคลาย ทำใจให้ใสใส ให้ใจเย็นๆ ทิ้งทุกอย่างปล่อยวางทุกสิ่ง คลายความผูกพันทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นคนสัตว์สิ่งของ หรือเรื่องอะไรที่นอกเหนือจากนี้ก็ตาม ให้ปลดให้ปล่อยให้วาง ให้คลายความผูกพันทั้งหมดนะจ๊ะ ทำเหมือนว่าเราอยู่คนเดียวในโลก ให้ใจเกลี้ยงๆ ให้ใจ เี่เราใช้เวลา 1 หรือ 2 นาทีเนี่ยปรับตรง นี้นะจ๊ะ ให้ใจเกลี้ยงๆ ให้ใจใสๆ ใจไม่เกาะไม่เกี่ยวไม่เหนียวไม่รั้งใน เรื่องใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าสุขไม่ว่าทุกข์ ไม่ยินดียินร้ายอะไรทั้งสิ้นน่ะให้ปลดให้ ปล่อยให้วาง ให้ใจเป็นกลางๆ ใจใสใสใจเย็นๆ แล้วก็รวมใจกลับเข้าไปสู่ภายใน หยุดนิ่งๆนุ่มๆ อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรานะจ๊ะ ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา 2 นิ้วมือ โดยสมมุติว่าเราหยิบเส้นได้มา 2 เส้น นำมาขึงให้ตึง จากสดสะดือทะลุไปด้านหลังเส้นหนึ จากด้านขวาทะลุไปด้านซ้ายอีกเส้นนึง ให้เส้นใดทั้งสองตัดกันเป็นกากบาท จุดตัดจะเล็กเท่ากับปลายเข็ม เหนือจุดตัดนี้ขึ้นมา 2 นิ้วมือนะจ๊ะนะ เรียกว่าศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ซึ่งเป็นที่เกิดที่ดับที่หลับที่ตื่นของ ตัวเรา
นอกจากนั้นยังเป็นจุดที่สำคัญ ตำแหน่งที่สำคัญ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ นับประสงค์ไขพระองค์ไม่ถ้วน ไม่มีเว้นเลยแม้แต่พระองค์เดียว เมื่อท่านปลดปล่อยวาง ทุกสิ่งแล้วเนี่ยแม้กระทั่งชีวิต ใจของท่านจะกลับเข้ามาสู่ภายใน แล้วก็มาหยุดนิ่งอยู่ที่ตรงนี้แหละ ตรงทหารที่ 7 นิ่งอย่างเดียว ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้น่ะ นิ่งเฉยๆอย่างเดียว หยุดใจอย่างเดียว ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งท่านบรรลุ อนุตตรสัมมาสัมพุทธาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นิ่งอย่างเดียว จนกระทั่งใจถูกส่วน ก็ตกศูนยเข้าไปสู่ภายใน แล้วก็มีดวงธรรมลอขึ้นมาเป็นดวงใสๆ กลมรอบโตเหมือนดวงแก้ว ใสบริสุทธิ์เหมือนเพชรลูกที่จรนัยแล้ว ไม่มีตำหนิเลย อย่างแรกก็ขนาดดวงดาวในอากาศ อย่างกลางของขณะพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ อย่างใหญ่ขนาดพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน หรือใหญ่กว่านี้ แล้วแต่บารมีที่ไม่เท่ากัน บารมีมากดวงก็ยิ่งใหญ่ยิ่งใส ยิ่งสว่าง จะสว่างเหมือนดวงอาทิตย์เนี่ยเที่ยงวัน แต่ว่าใสเย็นเหมือนแสงจันทร์ ในคืนวันเพ็ญน่ะ ดวงนี้เรียกว่าดวงปฐมมรรคหรือดวง ธรรมานุปัสสนาปัฏฐาน เป็นธรรมดวงแรก ถ้างั้นนิ่งอย่างนี้เรื่อยไปเลย ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้ ไม่ได้ไปพิจารณาอะไรนะนิ่งอย่างเดียว พิจารณาของท่านคือดูเฉยๆ สิ่งที่ปรากฏเกิดขึ้นเมื่อใจหยุดนิ่ง เพราะเมื่อท่านดูเฉยไปยิ่ง สิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวก็ปรากฏเกิดขึ้นมา แล้วก็ดึงดูดเข้าไปสู่ภายในเรื่อยๆ ผ่านกายในกายเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปถึงพระธรรมกายในตัว เป็นองค์พระที่สวยงามงามมาก ใสบริสุทธิ์ เกดตอกบัวตูม อริยาบถสมาธิ นิ่งอยู่บนแผ่นฌานน่ะที่ใสๆ ท่านก็นิ่งเรื่อยไปดูเรื่อยไป อย่างสบายๆ จนกระทั่งผ่านกายธรโคตภู กายธรรมพระโสดาบัน กายธรรมพระสกิทาคามี กายทำพระอนาคามีแล้วก็กายทำพระอรหัตถ์ ตรัสรูปเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นิ่งอย่างเดียว พอนิ่งไปก็ตกสูญไปเรื่อยๆ ใจก็เป็นอิสรภาพไปเรื่อย อิสรภาพจากกิเลสอาสวะเพิ่มขึ้น ก็บริสุทธิ์เพิ่มกันไปเรื่อยๆ ยิ่งหยุดยิ่งยิ่งดิ่งไม่ยัง ใจก็ยิ่งบริสุทธิ์ จนกระทั่งหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วท่านก็นำวิธีการที่ท่านได้บรรลุ มาสั่งสอนพระสาวก เมื่อพระสาวกทำตามท่าน ก็ได้บรรลุทำตามท่านคือบรรลุมรรคผลนิพพร ตามท่าน ด้วยการหยุดกับนิ่งอย่างเดียว หยุดนิ่งให้ถูกส่วนทีเดียว เพราะฉะนั้นเราผู้มาในภายหลัง จะต้องเดินตามรอยท่าน ในการฝึกใจให้หยุดให้นิ่ง เพราะว่าพยายามมาน่ะเอาความอยากทะยานอยาก ตรึง่งใจเราไปติดกับสิ่งภายนอก มามากมายแล้วนะ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับ ใจที่หยุดนิ่ง จนกระทั่งลืมไปเลย เพราะมีสิ่งที่ดีที่ประเสริฐ ที่จะทำให้ชีวิตนี่บริสุทธิ์บริบูรณ์ สมความปรารถนาได้เนี่ยมีอยู่ในตัว ความทะยานอยากทำให้จิตไม่บริสุทธิ์ คืออยากได้อยากมีอยากเป็น ต้น เมื่อใจหยุดจากความอยากทั้งหลาย นิ่งถูกส่วน ก็ตกศูนยดังกล่าวนั่นแหละ หลุดหลุดพ้นเป็นอิสรภาพ จากสิ่งเหล่านั้นที่พยามารเบังคับเอาไว้ น่ะหลุดก็เข้าถึงความสุขที่แท้จริง เข้าถึงความบริสุทธิ์ภายใน ถึงความเห็นแจ้งรู้แจ้ง แทงตลอดในธรรมทั้งปวง
เพราะฉะนั้นหยุดให้จึงเป็นตัวสำเร็จ ให้ได้บรรลุมคลนิพพานบรรลุธรรมได้ตามที่ พระเดชคุณหลวงปู่ของเราท่านได้กล่าวเอา ไว้ เพราะฉะนั้นให้เราฝึกตรงนี้กันให้ได้นะ จ๊ะฝึกหยุดฝึกนิ่ง อย่างเบาๆสบายๆ พอถูกส่วนใจก็จะหลุดจากสภาวะหยาบ ไปสู่สภาวะที่ละเอียด คือกายก็เบาขึ้นใจก็เบาขึ้น ใสขึ้นบริสุทธิ์ขึ้น โปร่งขึ้นโล่งขึ้น วางไปเรื่อยๆ จังทั้งเหมือนไม่มีตัวเหมือนไม่มีร่างกาย จะหายไปเลย หรือใจที่นิ่งอย่างเดียว เมื่อความรู้สึกกับความสบายสั่งสมมากก็ เคลื่อนไปสู่ภายในแล้วก็เห็นไปตามลำดับนะ จ๊ะ เพราะฉะนั้นให้เราฝึกตรงนี้ให้ได้ ฝึกหยุดแลกให้ได้ซะก่อน ฝึกซ้ำๆ ทำให้เป็นตรงเนี้ยฝึกใจหยุดใจนิ่ง ใครคุ้นเคยกับการวางใจนิ่งเฉยๆ ก็ให้ใจนิ่งเฉยๆนะจ๊ะ ใครจำเป็นจะต้องมีที่ยึดที่เกาะของใจก็ กำหนดบริกรรมกรรมในมิตขึ้นมาในใจ เป็นดวงใสๆ หรือองค์พระแก้วใสๆ ขนาดไหนก็ได้นะจ๊ะ อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้เกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 แล้วก็ประคองใจอย่างสบายๆ ประคองใจให้หยุดให้นิ่ง ด้วยบริกรรมภาวนา ในใจเบาๆว่า สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง ทุกครั้งที่เราภาวนา สัมมาอระหัง เราจะต้องไม่ลืมตรึกนึกถึงดวงใส ใจหยุดอยู่ที่กลางดวงใสๆ หรือองค์พระแก้วใสๆนะจ๊ะอย่างใดอย่าง หนึ่ง สำหรับผู้ที่ ถนัดในการนึกเป็นภาพเพื่อให้ใจมีที่ยึด ที่เกาะไม่ฟุ้งไปคิดเรื่องอื่นนะจ๊ะ เราก็ทำอย่างนี้ ส่วนใครถัดนิ่งเฉยๆก็นิ่งอย่างเดียว เพราะตอนสุดท้ายสภาวธรรมของใจที่ บริสุทธิ์ก็จะเหมือนกันเมื่อตกศูนยเข้าไป สู่ภายใน ก็จะมีดวงใสๆลอยขึ้นมา ซึ่งแตกต่างจากดวงที่เรากำหนดเป็นบริกรรม นิมิต เพราะว่ามาถึงความสุขความบริสุทธิ์ ความชัดใสความสว่าง และใจที่มีปีติสุขหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา ให้กลันจิตกลันใจกันไปอย่างนี้นะจ๊ะ สัพเพพุทธาปะลัปะตาปัเจกานัญยัง พะลัง อะระหันตานัญเชนะระขัง วันทามิสัพพะโส เตะรัตาสุขิตาวิรุณหาพุทธสาสะเนคา สุขิตาโหสะหะสัพเพหิยะทิพี สัพพะพุทธานุภาเวนะ นะสัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ สัทธาโสถี ภะวันตุเต >> สาธุ >> ลำดับต่อไปเป็นการกล่าวคำถวายปัจจัย 4 เป็นสังฆทาน สำหรับผู้แทนสาธุชนนำกล่าวคำถวายปัจจัย 4 เป็นสังฆทานคือกัลยาณมิตร ธัญญพรเสรีวัฒนวุฒิ และกัลยาณมิตรวิรงรองรัตนฉายา หันทะมะยัง พุทธัสสะภะคะวะโต ปุพะภาคะนะมะการัง กะโรมะเส นะโม ตัสสะสภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ >> นะโม ตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ >> นะโม ตัสสะภะคะววะโต อะระหะโต
สัมมาสัมพุทธัสสะ >> อิมานิมะยัง ภันเต >> อิมานิมะยังภันเต >> จตุปัจจยาทินิ >> จตุปัจจยาทินิ >> สัปะริวาราณิ >> สปะริวาราณิ >> ภิกขุสังฆัสสะ >> ภิกขุสังฆัสสะ >> โอโนชยยามะ >> โอโนชะยามะ >> สาธุโนภันเต >> สาธุโนภันเต >> ภิกขุสังโฆ >> ภิกขุสังโฆ >> อิมานิ >> อิมานิ >> จตุปัจจยาทินิ >> จตุปัจจยาที >> สะปะริวารานิ >> สปะริวาราณิ >> ปะฏิคันหาตุ >> ปะฏิคันหาตุ อัมหากัง >> อัมหากัง >> ทีฆัง ทีฆรัต >> หิตายะ >> หิตายะ >> สุขายะ >> สุขายะ >> นิพพานายจะ >> นิพพานายจะ >> ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ >> ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ >> ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ขอน้อมถวาย >> ขอน้อมถวาย >> เครื่องไทยธรรม >> เครื่องไทยธรรม >> มีปัจจัย 4 เป็นต้น >> มีปัจจัย 4 เป็นต้น >> พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ >> พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ >> แด่พระภิกษุสงฆ์ >> แด่พระภิกษุสงฆ์ >> ขอพระภิกษุสงฆ์ >> ขอพระภิกษุสงฆ์
>> จงรับ >> จงรับ >> เครื่องไทย >> เครื่องไทยธรรม >> มีปัจจัย 4 เป็นต้น >> มีปัจจัย 4 เป็นต้น >> พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่า พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ >> ของข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ของข้าพเจ้าทั้งหลาย >> เพื่อประโยชน์ >> เพื่อประโยชน์ >> เพื่อความสุข >> เพื่อความสุข >> เพื่อมรรคผลนิพพาน >> เพื่อมรรคผลนิพพาน >> แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ตลอดกาลละนานเทอญ >> ตลอดกาลละนานเทอญ >> สาธุ ลำดับต่อไปเป็นการกล่าวคำถวายอุปกรณ์ทำ ความสะอาดสำหรับผู้แทนสาธุชนนำกล่าวคำ ถวายอุปกรณ์ทำความสะอาดคือกัลยาณมิตร ไพศาลทวีชัยถาวรและกัลยาณมิตรเสาวี หิรัญญสิริขอเรียนเชิญครับ >> อิมานิมะยัง ภันเต >> อิมานิมะยังภันเต >> ระโชหะระระนานิ >> ระโชหะระนานิ >> สปริวารานิ >> สปริวาราณิ >> ภิกขุสังฆัสสะ >> ภิกขุสังฆัสสะ >> โอโนชะยามะ >> โอโนชะยามะ >> สาธุโนภันเต >> สาธุโนภันเต >> ภิกขุสังโฆ >> ภิกขุสังโฆ >> อิมานิ >> อิมานิ >> ระโชหะระนานิ >> ระโชหะระนานิ >> สปะริวารานิ >> สปะริวารานิ >> ปฏิปฏิคันหาตุ >> ปะฏิคันหาตุ >> อัมหากัง >> อัมหากัง >>
ทีฆรัตัง >> ทีฆรัตัง >> หิตายะ >> หิตายะ >> สุขายะ >> สุขายะ >> นิพพานายจะ >> นิพพานายจะ >> ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ >> ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ >> ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ขอน้อมถวาย >> ขอน้อมถวาย >> อุปกรณ์ทำความสะอาด >> อุปกรณ์ก่อนทำความสะอาด >> พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ >> พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ >> แด่พระภิกษุสงฆ์ >> แด่พระภิกษุสงฆ์ >> ขอพระภิกษุสงฆ์ >> ขอพระภิกษุสงฆ์ >> จงรับ >> จงรับ >> อุปกรณ์ทำความสะอาด >> อุปกรณ์ทำความสะอาด >> พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ >> พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ >> ของข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ของข้าพเจ้าทั้งหลาย >> เพื่อประโยชน์ >> เพื่อประโยชน์ความสุข >> เพื่อความสุข >> เพื่อมรรคผลนิพพาน >> เพื่อมรรคผลนิพพาน >> แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ตลอดกาลละนานเทอญ >> ตลอดกาลละนานเทอญ >> สาธุ >> ลำดับต่อไปเป็นการกล่าวคำอธิษฐานจิตถวาย อุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับผู้แทนสาธุชนนำ กล่าวคำอธิษฐานจิตคือกัลยาณมิตร ธนวัฒยิ่งมหิสรานนท์ขอเรียนเชิญครับ >> ด้วยบุญกุศล >> ด้วยบุญกุศล >> ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ได้น้อมถวาย >> ได้น้อมถวาย >> อุปกรณ์ทำความสะอาด >> อุปกรณ์ทำความสะอาด
>> พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ >> พร้อมด้วยบริวารทั้งหลายเหล่านี้ >> เป็นสังฆทาน >> เป็นสังฆทาน >> เพื่อรักษาสมบัติพระศาสศาสนา >> เพื่อรักษาสมบัติพระศาสนา >> สืบสาวัฒนธรรมคุณยาย >> สืบสานวัฒนธรรมคุณยาย >> ด้วยบุญกุศลนี้ >> ด้วยบุญกุศลนี้ >> ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย >> เข้าถึงพระธรรมกายโดยเร็วพลัน >> เข้าถึงพระธรรมกายโดยเร็วพลัน >> ให้มีผิวพรรณวรรณะผ่องใส >> ให้มีผิวพรรณวรรณะผ่องใส >> สุขภาพร่างกายแข็งแรง สุขภาพร่างกายแข็งแรง >> ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย >> ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย >> มีอายุไขยืนยาว >> มีอายุไขยืนยาว >> ให้มีกำลังใจสูงส่ง >> ให้มีกำลังใจสูงส่ง >> มีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย >> มีศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย >> ได้สร้างบารมีไปนานๆ >> ได้สร้างบารมีไปนานๆ >> ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต >> ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต >> ในภารกิจหน้าที่การงาน >> ในภารกิจหน้าที่การงาน >> และสิ่งที่พึงปรารถนา >> และสิ่งที่พึงปรารถนา >> ให้ได้เกิดในบุญเขต >> ให้ได้เกิดในบุญเขต >> ที่รุ่งเรืองด้วยพระพุทธศาสนาวิชชา ธรรมกาย >> ที่รุ่งเรืองด้วยพระพุทธศาสนาวิชชา ธรรมกาย >> ในตระกูลสัมมาทิฏฐิ >> ในตระกูลสัสัมมาทิฏฐิ >> ครอบครัวมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ >> ครอบครัวมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ >> ค้ำจุนพระพุทธศาสนา >> ค้ำจุนพระพุทธศาสนา >> แวดล้อมด้วยบัณฑิตนักปราชญ์ >> แวดล้อมด้วยบัณฑิตนักปราชญ์ >> ฉลาดในศาสตร์ทั้งปวง >> ฉลาดในศาสตร์ทั้งปวง >> ให้มีดวงปัญญาสว่างไสว >>
ให้มีดวงปัญญาสว่างไสว >> รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอด >> รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอด ทั้งทางโลกและทางธรรม >> ทั้งโลกและทางธรรม >> ให้ได้ที่สุดแห่งรูปสมบัติ >> ให้ได้ที่สุดแห่งรูปสมบัติ >> ทรัพย์สมบัติ >> ทรัพย์สมบัติ >> คุณสมบัติ >> คุณสมบัติ >> ที่สุดแห่งลาภยศสรรเสริญสุข >> ที่สุดแห่งลาภยศสรรเสริญสุข >> ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน >> ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน >> และวิชชาธรรมกาย >> และวิชชาธรรมกาย >> ให้ได้บรรลุวิชชาศ 3 >> ให้ได้บรรลุวิชชา 3 >> วิชชา 8 ประการ >> วิชชา 8 ประการ >> อภิญญา 6 >> อภิญญา 6 >> ปฏิสัมภิทา 4 >> ปฏิสัมภิทาญาณ 4 >> วิโมกข์ 8 >> วิโมกข์ 8 >> และจรณะ 15 >> และจรณะ 15 >> ขอให้คำอธิษฐานทั้งปวงนี้ >> ขอให้คำอธิษฐานทั้งปวงนี้ >> จงเป็นผังสำเร็จ >> จงเป็นผังสำเร็จ >> ติดตามข้าข้าพเจ้าไป >> ติดตามข้าพเจ้าไป >> ทุกภพทุกชาติ >> ทุกภพทุกชาติ >> ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญ >> ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญ >> นิพพานปัจจะโยโหตุ >> นิพพานะปัจจะโยโหตุ >> สาธุ >> ในโอกาสนี้ขอกราบอาราธนาท่านประธานสงฆ์ ได้เมตตากล่าวสัมโมทนียกถา และนำคณะสงฆ์ให้พรขอกราบอาราธนาครับ
>> ตั้งใจรับพรกันหา หลับตารวมใจไปที่กลางกาย วันนี้ระลึกนึกถึงคุณอาจารย์ มหารรัตนอุบาสิกาจันทร์นกยูงไว้ที่กลาง กายของเรานะ กันยายนพุทธศักราช 2543 3 คุณยายได้ละสังขาร ผ่านมาแล้ว 25 ปีเศษ แต่คำสอนของท่าน ไม่ได้จากไปพร้อมกับท่าน วัฒนธรรมที่ได้สร้างไว้เรื่องความสะอาด ยังอยู่ในใจของลูกหลานทั้งหลาย จึงได้พากันมา ร่วมถวาย อุปกรณ์ทำความสะอาด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกและสาธุ ชนที่มาบำเพ็ญบุญที่วัดพระธรรมกาย ขึ้นชื่อว่าพระพุทธศาสนาแล้ว มีองค์ประกอบอย่างน้อย 6 ประการ ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม ประการแรกคือ องค์พระศาสดา เป็นผู้ก่อตั้งศาสนา ประการที่ 2 คือ 2 คือศาสนธรรม คือคำสอนของศาสดา ประการที่ 3 คือบุคคลหรือศาสนทายาท เพื่อผู้สืบต่อ พระศาสนา ประการที่ 4 คือศาสนพิธี เป็นกิจกรรมที่ปลูกฝังศรัทธารักษาศรัทธา ให้กับศาสนิกชนของศาสนานั้น ประการที่ 5 คือศาสนวัตถุในที่นี้หมายถึงของใช้ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันและ อุปกรณ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และประการสุดท้ายประการที่ 6 คือศาสนสถาน ซึ่งศาสนสถานนี้จะเป็นสิ่งที่รองรับองค์ ประกอบของ ศาสนาทุกประการที่ผ่านมา ซึ่ง ศาสถาน ต้องผ่านขั้นตอนที่ทำให้มีอายุยั่งยืนยาว เกิดประโยชน์สูงสุดอยู่ 3 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือการออกแบบและการก่อสร้าง ที่วัดพระธรรมกายก็ ได้ ท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย ได้ช่วยกันมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างวัด เมื่อ 55 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ช่วงที่ 2 ช่วงของการซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งเสื่อมไปตามสภาพของกไตรลักษณ์ และประการที่ 3 คือการรักษาความสะอาด ช่วงการรักษาความสะอาดนี้จะมี ผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องมากที่สุดทั้งผู้ ที่อยู่ประจำ และผู้ที่มาร่วมงานบุญ ในวัดพระธรรมกาย คุณยายได้เลงเห็นว่าการรักษาความสตนี้ เป็นเรื่องที่ยั่งยืนยาวนาน จึงได้เคยให้โอวาทไว้ตั้งแต่เป็นศูนย์ พุทธจักรปฏิบัติธรรมไว้ว่า ยายเริ่มต้นจักไม่มีอะไร แต่ยายรักความสะอาด รักความสะอาดมาแต่ไหนแต่ไร ยายรบจนกระทั่งที่นี่สะอาดหมายถึงศูนย์ พุทธจักรปฏิบัติธรรมนะทำให้คนศรัทธา เลื่อมใสทำให้ที่นี่เป็นหลักชัยเป็นที่ ปฏิบัติธรรมได้ฉะนั้นอย่าทิ้งเรื่องความ สะอาดที่ยายพยายามรบมานะ เมื่อคุณยาย จะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นของใช้เป็นสุขภัณฑ์ก็ตาม สิ่งที่ท่านจะพิจารณามีอยู่ 3
ประการ ประการแรกก็คืออุปกรณ์ในการทำความสะอาด ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นเหมาะสมกับผิวของ วัสดุ ที่จะทำความสะอาดมากน้อยเพียงไร ประการที่ 2 คือน้ำยาที่นำมาใช้ทำความ สะอาดและประการที่ 3 คือวิธีการทำความ สะอาด ซึ่งท่านได้ถ่ายทอด วิธีการทำความศาสตร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ ที่ต้องใช้อยู่เป็นประจำรวมไปถึงสุขภัรฑ์ ให้กับลูกศิษย์ทั้งหลาย แล้วก็ได้สืบทอดมาเป็นวัฒนธรรมมาเป็น ประเพณีขององค์กรของวัดพระธรรมกาย ตลอดระยะเวลา 55 ปีที่ผ่านมา าวรวัตถุบุญญชญสถานนี้เกิดขึ้นมากมายซึ่ง เป็นภาวัตถุคณาใจที่เหมาะสมกับจำนวนผู้ ที่มาร่วม ฟังธรรมบำเพ็ญบุญ สภาธรรมกายสากลแห่งนี้ มีห้องน้ำประมาณ 2,600 ห้อง มหรัตนวิหารคตทั้ง 2 ชั้นมีห้องน้ำโดย ประมาณ 3,900 ห้อง เฉพาะ 2 อาคารทานแค่นี้รวมห้องน้ำแล้ว ประมาณ 6,500 ห้อง พวกเราแต่ละท่านต่างมีที่พักอาศัย อพาร์ทเมบ้างอพาร์ทเมนต์บ้างบ้านบ้าง คอนโดบ้างที่บ้านเรามีห้องน้ำกี่ห้องมีคน ใช้อยู่กี่คนเราก็ทราบดีว่า ถ้าจะดูแลรักษาความสะอาดให้ดีจริงๆแล้วก็ ต้องอาศัยความละเอียดถี่ถ้วน การรักความสะอาดจริงๆจึงสาดได้ต่อเนื่อง แต่ที่วัดพระธรรมกายมีห้องน้ำเฉพาะอาคาร หลัก 2 อาคารนี้ 6,500 ห้อง มีผู้มาใช้หลากหลาย ในอาทิตย์ธรรมดาก็เรือนหลายพัน ถ้าอาทิตย์ต้นเดือนก็หลายหมื่น ถ้างานบุญพิเศษงานบุญใหญ่เช่นวันคุ้มครอง โลกอันนี้หลายแสนคน ที่มาเป็นประจำก็มี สาธุชนที่มาใหม่ก็มี มาใช้ สุขพันธ์และห้องน้ำ คุณครูแม่ใหญ่ ท่านพิจารณาเห็นว่า จะทำอย่างไรให้ความสะอาดที่คุณยายได้ ปรารภถึงนั้นมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ท่านจึงให้โอวาทกับลูกๆเอาไว้ว่าอยากให้ ลูกๆทุกคนถือโอกาสฝึกอุปนิสัยของเราที่จะ ช่วยกันรักษาความสะอาดและช่วยลดภาระของ ผู้ดูแลทำความสะอาดรวมทั้งผู้ที่มาใช้ บริการต่อจากเราให้เขามีความรู้สึกว่า เป็นคนแรกเสมอ คือทั้งอ่างล้างหน้าทั้งในห้องน้ำให้ สะอาดและแห้ง ซึ่งพวกเราทั้งหลายที่มาเป็นประจำ ก็จะรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ห้องน้ำที่เรา ใช้นั้นสะอาดและแห้ง ท่านใดที่ได้ด้วยช่วยกันดูแลความสะอาดก็ จะทราบดีว่า ประโยชน์ย่อมเกิดขึ้นกับตัวเราในทันที คือ จะฝึกนิสัยความรับผิดชอบแม้นไม่มีใครเห็น ฝึกนิสัยรักความสะอาด นี่เกิดกับตัวเราทันทีที่เราทำ ประการที่ 2 ประโยชน์นั้นย่อมเกิดขึ้นกับ พระพุทธศาสนา ทำให้อายุของอุปกรณ์และสุขพันธ์นั้นยืน ยาวยาวนานแล้วก็น่าใช้ ประที่ 3 เจ้าภาพที่ถวายอุปกรณ์ธรรมสะอาด ได้ถวาย สุขพันธ์ ตราบใดที่ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหล่านี้ยังคงอยู่ ใช้งานได้ดีก็ย่อมได้บุญต่อเนื่องกันไป
ตราบนานเท่านาน นี่ เป็นอสงฆ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันทันทีแล้ว ก็ข้อที่ 4 ยอมปีที่เป็นที่สรรเสริญของมนุษย์และ เทวดาทั้ง เวลาที่มีงานบุญใหญ่มีสาชนเข้ามาใช้ บริการห้องน้ำมากๆ บางทีเราใช้ห้องน้ำต่อเนื่องจากคนที่แล้ว พอเข้าไปเราเห็นห้องน้ำที่สะอาดและแห้ง ใจเราก็นึกแล้วว่าเอออันนี้คงมาวัดนาน แล้วรักษาความสัตย์ได้ดีน่าปลื้มใจน่า ชื่นชมกับเา นี่ดีเป็นที่ชื่นชมเป็นที่สรรเสริญ ของมนุษย์และเทวดาทั้งหลายในการรักษาความ สะอาดห้องน้ำ คุณยาอาจารย์ได้กล่าวถึงอานิสงส์ ที่จะเกิดขึ้นในเทวโลกว่า คนที่ทำความสะอาดธรณีสงฆ์ไม่ว่าจะไปอยู่ สวรรค์ชั้นใดก็ตามจาตุมหาริกา ดาวดึง ยามดุสิตจิตวิมานก็จะสว่างไสวผิวพรรณ วรรณะก็จะผุดผ่องกว่าเทวดาองค์อื่นๆคนที่ มาทำความสะอาดอย่างนี้มีน้อยเทวดาที่มี ผิวพรรณสว่างไสวอย่างนี้ก็มีน้อย ถ้าเรามีแรงเราก็ทำกันไปนะใครทำใครได้ สะสมกันไปนานๆก็แล้วกัน มีเรื่องที่มีในมาในพระพุทธศาสนา ในอดีตกาล สามเณรรูปหนึ่ง กำลังเล่นสนุกสนาน พระอาจารย์ก็ขอให้สามเณรหอบอยากเยื่อ นำไปทิ้งในสถานที่ที่ชุมชนเขาทิ้งเอาไว้ สามเณรก็กำลังสนุกกับการเล่นก็ไม่อยากจะ ไป พระพี่เลี้ยงก็เสียงแข็ง สามีก็จำต้องเอาหยากเยื่อนั้นไปทิ้ง ในที่ที่ชุมชนกันขอบเขตเอาไว้สำหรับทิ้ง อยากเยื่อ แต่สถานที่ที่นั้นอยู่ไกลอยู่ไม่ไกลจาก แม่น้ำใหญ่ สามเณรก็ ทิงอยากเยื่อเสร็จก็ลงไปเล่นน้ำ พี่เลี้ยงพระพี่เลี้ยงเขียนว่าผิดสังเกต ว่าทำไมสามเณรไปนาน เป็นห่วงก็เลยตามไปดู เห็นสามเณรเล่นน้ำอยู่ สามเณรระลึกนึกถึงบุญที่นำอยากเยื่อในวัด มาทิ้งให้วัดนั้นโล่งพระองค์จึงอธิษฐาน ว่าด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้า นำหยากเยื่อในวัดมาทิ้งออกนอกเขตบุญชสถาน ทำให้บุญสถานสว่างไสว ด้วยบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้ามีดวงปัญญากว้าง ไกล ต่อเนื่องประดุจคลื่นที่ฟัดซัดเข้าสู่ ฝั่งละลอกแล้วละลอกเล่าไม่รู้จักหมดสิ้น พระพี่เลี้ยง ได้ยินได้ฟังสามเณรอธิษฐานแบบนี้ ก็ตั้งความปรารถนา ว่าตรัสใดที่ยังเวียนว่าแต่เกิดสร้าง บารมีอยู่ ขอให้มีดวงปัญญา แตกฉานกว้างไกล ประดุจฝั่งของแม่น้ำที่สามารถรองรับ ปัญญาของสามเณรได้ ด้วยกำลังบุญและแรงอธิษฐานและการสั่งสม บุญที่ต่อเนื่องทั้ง 2 ท่านนี้ได้มาเกิด ในยุคพุทธกาลที่ผ่านมา พระพี่เลี้ยง มาเป็นสามเณรนาคเกษน ส่วนสามเณรมาเป็นพระญา เมันเดอร์หรือพระเจ้ามิริน ทั้งสองได้มาพบกันพระญามิรินก็แตกฉานใน ศาสตทั้งปวง แต่เป็นความแตกฉานด้วยจินตมยปัญญาด้วยการ พิคิดพิจารณาไต่ตองไม่ได้แตกฉันด้วยภาวนา มายปัญญา พบพระภิกษุรูปใดเข้าไปสอบถามไปซักถามชน พระภิกษุทั้งหลายไม่สามารถตอบคำถามได้จน กระทั่งมาเจอสามเณร นักเกษมซึ่งต่อมาก็บวชเป็นพระนักเกษตร เป็นคู่ทรมานที่สามารถทำให้พระยามิริน กลับมาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้ อานิสงส์ของการทำความสาดไม่ใช่เรื่องเล็ก น้อย ถ้าทำความสาดไปใจระลึกนึกถึงครูยาย อาจารย์ของเราไป อธิษฐานจิตให้ดี ย่อมมีอานิสงส์ทำให้ผิวพรรณวนะผ่องใส สมบัติของเราเกิดขึ้นแล้วจะวิบัติไปได้ โดยง่ายจะมีคนมาดูและรักษาเนื่องจาก สมบัติที่เรารักษานั้นเป็นสมบัติของพระ พุทธศาสนาศาสนาเป็นสมบัติของพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า คณะสงฆ์ขออนุโมทนาสาธุการ ในความรักความลึกนึกถึงกุญาจารย์ของพวก เราทั้งหลายและทางกุศลที่ได้มาทำในวันนี้
พร้อมกันนี้คณะสงฆ์จะได้พร้อมใจกันตั้ง จิตอธิษฐาน อาราธนาบารมีธรรมแห่งองค์สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจจกพุทธเจ้าทั้งหลายและพระอรันตเจ้า ทั้งปวงตลอดจนบารมีธรรมของพระเดชพระคุณ พระมงคลเทพมุนีหลวงปวดปักน้ำภาษีเจริญผู้ ค้นพบวิชาธรรมกาย บารมีธรรมของหลวงพ่อธรรมชโยบารมีธรรมของ หลวงพ่อทัตตชีโว บารมีธรรมของคุณใหญ่อาจารย์มหารรัตน อุบาสิกาจันทร์ขนยูงผู้ว่ากำเนิดวัดพระ ธรรมกาย รวมทั้งอำนาจทานกุศลที่ท่านทานบิทั้งหลาย ได้ตั้งใจกระทำว่าดีแล้วในอดีตและได้ กระทำในวันนี้ ขอบุญบารมีทั้งหลายเหล่านี้จงประมวลกัน เข้าให้เป็นตบะเดชะปรวะปัจจัย ส่งผลดลบันดาลอภิบาลคุ้มครองปกป้องรักษา ให้ท่านทานบวดีทั้งหลายจงเป็นผู้ปราศจาก จะซึ่งสรรพทุก์ สรรพโศกสรรพโรคสรรพภัย อุปัถวันตรายใดๆอย่าได้มาโพ้งพานให้มีแต่ ความสุขความเจริญยิ่งยืนนานในร่มเงาของ พระพุทธศาสนา ให้เจริญยิ่งได้อายุวรรณะสุขพละ ปฏิพานธนสารบริวารสมบัติ ปรารถนาสิ่งใดอันเป็นไปในทางที่ชอบประกอบ ด้วยกุศลขอให้สัมฤทธิีผลดังกมนที่มุ่ง มั่นปรารถนาไว้ดีแล้วตั้งใจไว้แล้วจงทุก ประการ อันหนึ่งเมื่อถึงคราวเจริญสมาธิภาวนาให้ มิงเห็นทำเข้าถึงพระธรรมกายได้โดยง่าย บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยง่ายโดยเร็วพลัน จงทุกท่านทุกประการเทอญ >> สาธุ >> น้อมบุญนี้บูชาธรรมาปูชาทุกท่านบุพการี ของเราทุกคน และสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณ ยะถาวาริวะหา ปุราปริปุเรนติสาคะ เอวะเมวะอิโตทินนัง เปตานังอุปะกัปะติ อิจฉิตังปะทิตังตุมหังคิพปะเมวะสะมิจจะตุ สัพเพปูเรนตุสังกัปปา จันโทปะณรโสยะถามะณิโชติโสยะถา สัพพิติโย โยชันตุ สัมพะโรโก วินัสสะตุมเต ภะวันตะราโย สุขีทีคายุโก ภะวะสัพพีติโย วิวัชันตุ สัังคะโรโก วินัสสะตุมาเต ภะวาตะราโย สุขีคายุโก ภะวะสัพพีติโย วิวัชันตุ สัพพะโรโินัสสะตุมาเต ภะวาวันทะโย สุขิทคายุโก ภะวะอภิวาทะนะ สีลีสะนิจชัง วุทธา ปะจายิโน จัตตาโร ธัมมาวัทันติ อายุวันโน สุขัง ะลัง สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ พุทธะระตะนัง ธัมมะระัตะนัง สังฆะระตะนัง ตินัง รัตะนานานัง อานุภาเวนะ จะตุรา สีติสะหัสสะธัมมัง ขันทานุภาเวนะ ปิตะกาตะยานุภาเวนะ ชินะสาวะกานุภาเวนะ สัพเพเตโรคา สัมเพเตเตภะยา สัพเพเต อันตะราย สัพเพเต อุปัทะวา สัพเพเต ทุนนิมิตตา สัพเพเต อะวะมังคะลา วินัสสันตุ อายุวันทะโก
ทะนะวันทะโก สิริริวันทะโก ยะสะวันทะโก ภะละวันทะโก วันนะวันทะโก สุขะวันทะโก โหตุสัมพะทาโทคะโรคะพะยา เวระโสกาสัตตุ จุปัตถะวา อะเนกา อันตะรายาปิวิ วินัสสันตุ จะเตชะสา ชะยะสิทธิะนัง ลาภังโสถี สุขังพะลังสิริอายุ จะวันโน จะโภคังวุธีจะยะสะวาสะตะวันสา จะอาโยจะชีวะสินเทิง ภะวันตุเตเตภะวะตุสัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัทาโสุตถีภะวันตุเตภะวะตุสัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเว สัทธาโสถีภะวันตุเตภะวะตุสัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆาุ าเวนะ สัทธาโสตธี ภะวันตุเต สาธุ >> แผ่เมตตากันนะ สัพเพสัตตา >> สัพเพสัตตา >> สัตว์ทั้งหลาย >> สัตว์ทั้งหลาย >> ที่เป็นเพื่อนทุกข์ >> ที่เป็นเพื่อนทุกข์ >> เกิดแก่เจ็บตาย >> เกิดแก่เจ็บตาย >> ด้วยกันหมดทั้งสิ้น >> ด้วยกันหมดทั้งสิ้น >> อเวลา >> อเวลา >> จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด >> จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด >> อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย >> อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลยอัพยาปัชชา >> อัพยาปัชชา >> จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด >> จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด >> อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย >> อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย >> อนีคา >> อนีคา >> จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด >> จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด >> อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย >> อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย >> สุขีอัตตานังปริหะรันตุ >> สุขีอัตตานังปริหะรันตุจงมีความสุขกายสุข ใจ >> จงมีความสุขกายสุขใจ >> รักษาตน >>
รักษาตน >> ให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด >> ให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด >> ท่านทั้งหลาย >> ท่านทั้งหลาย >> ที่ท่านได้ทุกข์ >> ที่ท่านได้ทุกข์ >> ขอให้ท่านมีความสุข >> ขอให้ท่านมีความสุข >> ท่านทั้งหลาย >> ท่านทั้งหลาย >> ที่ท่านได้สุข >> ที่ท่านได้สุข >> ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป >> ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป >> สัพเพสัตตา >> สัพเพสัตสัตตา >> สัตว์ทั้งหลาย >> สัตว์ทั้งหลาย >> ที่เกิดเป็นอันทะ >> ที่เกิดเป็นอันทชะ >> ที่เกิดเป็นชราภุชะ >> ที่เกิดเป็นชราภูชะ >> ที่เกิดเป็นสังเสทัชะ >> ที่เกิดเป็นสังเสทัชะ >> ที่เกิดเป็นโอปปาติกะ >> ที่เกิดเป็นโอปปาติกะ >> จงมารับกุศลผลบุญ >> จงมารับกุศลผลบุญ >> ให้ถ้วนทั่วทุกตัวเทอญ >> ให้ถ้วนทั่วทุกตัวเทอญ >> อะระหังสัมมาสัมพุทโธโภะคะวา >> อะระหังสัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา >> พุทธังภะคะวันตังอะภิวาเทมิ >> พุทธังภะคะวันตังอะภิวาเทมิ >> พุทโธเมนาโถพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของเรา สวากขาโตภะคะวะตาธัมโม >> สวากขาโตภะคะวะตาธัมโมธัมมังนะมัสสะ ธัมมังนะมัสสามิ >> ธัมโมเมนาโถพระธรรมเป็นที่พึ่งของเรา สุปะฏิปันโนภะคะวะโตสาวะกะสังโฆ >> สุปะฏิปันโน ภะคะวะโตสาวะกะสังโฆ >> สังฆังนะมามิ >> สังฆังนะมามิ >> สังโฆเมนาโถพระสงฆ์เป็นที่พึ่งของ เรียนเชิญสาธุชนทุกท่านตั้งใจกราบพระครู วิบูลณ์นิติธรรมท่านประธานสงฆ์และคณะสงฆ์ โดยพร้อมเพรียงกันนะครับกราบ กราบ กราบ >> ให้สุขทั้งกายทั้งใจให้ทานกุศลนี้เป็น สมบัติใจเอาไว้สร้างบารมีติดตามมหา มหาปูชนียจารย์ สร้างบารมีเป็นทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่ สุดแห่งธรรมเทอญ >>
สาธุ >> ครับและในโอกาสนี้นะครับจะเป็นการถวาย อุปกรณ์ทำความสะอาดนะครับขอเรียนเชิญท่าน เจ้าภาพได้น้อมนำอุปกรณ์ทำความสะอาดไปยัง ที่ด้านหน้าอาสงฆ์ทั้งด้านหน้าและด้าน ข้างทั้ง 2 ฝั่งนะครับแล้วให้รอสักครู่ หนึ่งนะครับโดยฟังสัญญาณจากเสียงคล้อง เมื่อคล้องดังขึ้นจึงค่อยถวายพร้อมๆกันนะ ครับขอเรียนเชิญครับ เรียนเชิญได้เลยนะครับอ่าสาธุชนที่มี ทยธรรมวันนี้เราจะได้มาถวายถอยอุปกรณ์ทำ ความสะอาดนะครับทั้งซ้ายทั้งขวานะครับอ่า แล้วรอสักครู่นึงนะครับรอสักครู่นึง เดี๋ยวรอฟังสัญญาณสิ่งของนะครับรอฟัง สัญญาณสิ่งของเพื่อที่เราจะได้ถวายพร้อมๆ กันนะครับ อ่าก็ยืนถวายนะครับยืนถวายตอนนี้ก็ต่อแถว ที่ 2 แถวที่ 3 ได้เลยนะครับก็แถวแรกนะ ครับอ่ารอก่อนนะครับรอก่อนเดี๋ยวรอฟัง เสียงยานเสียงคลองสักครู่คู่นึงนะครับ ส่วนท่านที่มาต่อแถวนะครับเราก็เตรียมใจ ของเราให้ใสๆนะครับแล้วก็ถวายด้านข้างได้ ด้วยนะครับถวายด้านข้างได้ด้วยนะครับตอน นี้ก็รอความพร้อมสักครู่นึงนะครับรอความ พร้อมสักครู่นึง อ่ามาได้เลยนะครับทั้ง 2 ฝั่งนะครับ 2 ฝั่ง อ่าเดี๋ยวรอสัญญาณสิ่งคล้องนะครับถ้า สัญญาณคล้องพร้อมนะครับเดี๋ยวเราจะได้ ถวายพร้อมๆกันนะครับ >> ไม่ >> เรียนเชิญทุกท่านถวายอุปกรณ์ทำความสะอาด ในโอกาสนี้ครับสาธุ สาธุ สาธุ เคยมีคนได้ถามเราว่าต้องมาทำไมต้องทำ เพื่อใครแต่เราไม่เคยทอใจกันใช่ไหม และมีบางคนยังถามเราว่าที่ทำลงไปเหน็ด เหนื่อยบ้างไหมเรารู้ต้องทำเพื่ออะไร รู้ว่าเราต้องเหนื่อยเพียงใดเราจะเก็บแรง บุญให้คอยค้ำจุนงานบุญไม่ทอขอเพียงได้มา สร้างบารมี นี่คือบุญของฉันแล้วฉันก็ต้องทำเอง นี่คือบุญของฉันแล้วฉันก็ต้องมาเอง และนี่คือบุญของเราร่วมสร้างกันมาได้มา ร่วมใจเมื่อไรเรื่องที่ยากก็จะเป็นง่าย มันเกิดขึ้นแล้วด้วยใจใสๆเรารักในของฉัน ชี ที่ของจ >> เรารักในของฉันที่ชี ที่เธอ >> เคยมีคนได้ถามเราว่าต้องมาทำไมต้องทำ เพื่อใครและนี่คือบุญของฉัน ของ ฉันเ เคยมีคนได้ถามเราว่าต้องมาทำไมต้องทำ เพื่อใครแต่เราไม่เคยทอใจกันใช่ไหม และมีบางคนยังถามเราว่าที่ทำลงไปเน็ด เหนื่อยบ้างไหมเรารู้ต้องทำเพื่ออะไร รู้ว่าเราต้องเหนื่อยเพียงใดเราจะเก็บแรง บุญให้คอยค้ำจุนงานบุญไม่ทอขอเพียงได้มา สร้างบารมี นี่คือบุญของฉันแล้วฉันก็ต้องทำเอง นี่คือบุญของฉันแล้วฉันก็ต้องมา และนี่คือบุญของเราร่วมสร้างขึ้นมาได้มา รวมใจเมื่อไรเรื่องที่ยากก็จะเป็นง่ายมัน เกิดขึ้นแล้วด้วยใจใสๆเรารักในของฉันช่วย ชีวิตชี้ ช่วยของจ >> เรารักในของฉันที่ชี้ ที่เข้า เคยมีคนได้ถามเราว่าต้องมาทำไมต้องทำ เพื่อใครและนี่คือบุญของฉัน ของ ฉันเ้า ของบุญช่วยกันดูแลทุกๆอย่างเลยนะคะให้ สะอาดเรียบร้อยดังนั้นอุปกรณ์ทุกชิ้นเลย จึงสามารถมีอายุการใช้งานได้ยืนยาวมากๆนะ คะแล้วก็ทุกครั้งที่ได้มาหยิบใช้นะคะก็ เหมือนเป็นคน มอง รอบตัวตาฉันพระวัวด้วยน้ำตาริน ใจฉันดื่มกินอิ่มรสสุกทิม ด้วยใจ ทุกสิ่ง
ภายใน บุพาราม ฉันได้สร้างไว้ เพื่อน้อม ถวาย ท่านทักขินัย เล็กเหนือหน้าบุญบูเฟอร์ แดน ลมฝนด้วยความสุขล้นการสร้างอาราม ดังดอกบัวบานอยากรักผู้ไทยแสงไออุ่น โลกจะสุขสานเราขารับธรรมพระผู้ทรงคุณ จิตใจทุกคนหอมกรุ่นด้วยศีลและธรรมของพระ สัมมา ใจเอยชื่นใจจังหลาย เหมือนลอ ในสวนสวรรค์ สวนดันทวันจิตและดาวอันตรการตา ลูกหลาน เหลนเราดังเทพบุตร เทพธิดา อนุโมทนา อนุโมทนา อนุโมทนา บุญทุกคน อนุโมทนา อนุโมทนา อนุโมทนา อนุโมทนา ในมหากุศล ผลบุญ ที่ท่านได้คำจนพระพุทธศาสนา สร้างบารมี สมที่ได้เกิดมามนุษย์เทวา อนุโมทนา >> มนุษย์เทวา อนุโมทนา บุญกุศล ที่ท่านคำครานี้ จะติดตามต่อไปภายภาคหน้า ให้มีสุขทุกชาติที่เกิดมาตราบจนกวางเข้า สู่พระนิพพาน ให้มีสุขทุกชาติที่เกิดมาตราบจน เข้าสู่พระนิพพาน อนุโมทนา อนุโมทนา ทุกคน อนุโมทนา อนุโมทนา อนุโมทนา ผู้มีบุญ ทุกคน อหังอเวโร >> ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้ปราศจากเวช >> ปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน อนิค >> ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจมีแต่ความสุข รักษาตนให้พ้นจากทุกภัยทั้งสิ้นเถิด มาตามิ >> ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จริยาจา >> ครูบาอาจารย์ >> ญาติมิตตาจาร >> ญาติมิตร >> สรัมมจาริโน >> และผู้ประพฤติธรรมทั้งปวง ร >> จงเป็นผู้ปราศจากเวร >> อชา >> ปราศจากการพยาบาทเบียดเบียนอิ >> ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจมีแต่ความสุข รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ให้ผู้บำเพ็ญเพียรทั้งปวงในอารามแห่งนี้ เวลา >> จงเป็นผู้ปราศจากเวร >> อัชา >> ปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน >> ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจมีแต่ความสุข รักษาตนให้พ้นจากภัยทั้งสิ้นเถิด อาราเม >> ขอให้พระภิกษุทุกรูปที่อยู่ในอารามแห่ง นี้
>> สามเณราจา >> สามเณร >> อุบาสกอุบาสกอุบาสิกาและอุบาสิกาจา >> เวร จงเป็นผู้ปราศจากเวรอัพยา ปัชา >> ปราศจากการพยาบาทเบียดเบียน >> ปราศจากความทุกข์กายทุกข์ใจมีแต่ความสุข รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น >> เถิด >> ขอให้ท่านานบดีผู้ให้ปัจจัย 4 แก่พวก ข้าพเจ้า ร >> จงเป็นผู้ปราศจากเวร >> อชา >> ปราศจากการพยาบาทเบียดเบียนปิขอ